อุปกรณ์ป้องกันฟุตบอล มีอะไรบ้าง ? แนะนำอุปกรณ์ป้องกันสำคัญที่ต้องมี

อุปกรณ์ป้องกันฟุตบอล มีอะไรบ้าง ? แนะนำอุปกรณ์ป้องกันสำคัญที่ต้องมี

ฟุตบอลเป็นกีฬายอดนิยมที่คนทั่วโลกชื่นชอบ ไม่ว่าจะเล่นเพื่อความสนุกหรือแข่งขันจริงจังก็ตาม แต่รู้มั้ยครับว่าการป้องกันการบาดเจ็บเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ ที่เราไม่ควรมองข้าม อุปกรณ์ป้องกันต่างๆ จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยให้เราเล่นได้อย่างปลอดภัยและมั่นใจมากขึ้นครับ และไม่ใช่แค่นักฟุตบอลมืออาชีพเท่านั้นนะครับที่ต้องใช้ แต่นักกีฬาสมัครเล่นอย่างพวกเราก็จำเป็นต้องมีเหมือนกัน วันนี้ผมจะพาทุกคนมารู้จักกับ อุปกรณ์ป้องกันฟุตบอล ที่สำคัญในการเล่นฟุตบอล พร้อมแนะนำวิธีเลือกใช้ให้เหมาะกับตัวเอง เพื่อให้ทุกคนสนุกกับการเล่นฟุตบอลได้อย่างเต็มที่และปลอดภัยครับ!


ความสำคัญของการใช้ อุปกรณ์ป้องกันฟุตบอล

ความสำคัญของการใช้ อุปกรณ์ป้องกันฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่ต้องใช้ทั้งทักษะ ความเร็ว และมีการปะทะกันในสนามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าสกัดบอล การกระโดดโหม่งลูก หรือการวิ่งแย่งบอลกับคู่แข่ง ซึ่งถ้าไม่มีอุปกรณ์ป้องกันที่ดีพอ ก็มีโอกาสเสี่ยงบาดเจ็บได้ง่ายๆ เลยครับ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมอุปกรณ์ป้องกันถึงสำคัญมากๆ ไม่ว่าคุณจะเล่นเพื่อสนุกหรือแข่งขันจริงจังก็ตามครับ

  • ลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บ: ผมขอยกตัวอย่างอุปกรณ์ฟุตบอลที่สำคัญนะครับ ไม่ว่าจะเป็นสนับแข้งที่ช่วยกันเวลาโดนเตะหรือปะทะ ถุงมือโกลที่ช่วยลดแรงกระแทกตอนรับลูกและป้องกันนิ้วมือ หรือหมวกป้องกันศีรษะที่ช่วยลดความรุนแรงจากการกระทบกระแทก ทั้งหมดนี้ช่วยลดโอกาสบาดเจ็บจากการปะทะในสนามได้เยอะมากครับ โดยเฉพาะในจังหวะการเล่นที่เสี่ยงและรุนแรง
  • เพิ่มความมั่นใจในการเล่น: ลองคิดดูนะครับ เวลาที่เรารู้ว่าเรามีอุปกรณ์ป้องกันที่ดีและได้มาตรฐาน เราก็จะกล้าเล่นเต็มที่มากขึ้น มีสมาธิจดจ่อกับเกมมากขึ้น ไม่ต้องกังวลว่าจะเจ็บตัวหรือได้รับบาดเจ็บรุนแรง ทำให้สามารถแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่ในทุกจังหวะการเล่นครับ
  • สนับสนุนการเล่นในระยะยาว: ถ้าเราใช้และดูแลอุปกรณ์ป้องกันให้ดี มันจะช่วยให้เราเล่นฟุตบอลได้นานๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องอาการบาดเจ็บเรื้อรังที่อาจตามมาในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นปัญหาที่หัวเข่า ข้อเท้า หรือกล้ามเนื้อต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของเราได้ครับ

6 อุปกรณ์ป้องกันฟุตบอล สำคัญที่ต้องมี

1. สนับแข้ง 

1. สนับแข้ง (Shin Guards)

สนับแข้งเป็นอุปกรณ์ป้องกันที่ผมขอบอกเลยว่าขาดไม่ได้เลยครับ มันช่วยปกป้องหน้าแข้งเราจากการปะทะในสนาม ไม่ว่าจะโดนเตะ ชน หรือล้ม สนับแข้งจะช่วยลดความเสี่ยงที่จะบาดเจ็บได้เยอะมากครับ

ประเภทของสนับแข้ง

  1. แบบสวมในถุงเท้า (Slip-In Shin Guards): ผมชอบแบบนี้นะครับ เพราะมันเบาและใส่ง่าย สอดเข้าไปในถุงเท้าได้เลย เหมาะกับคนที่ชอบความคล่องตัวและไม่ชอบอะไรรัดแน่นๆ ครับ
  2. แบบสายรัด (Strap-On Shin Guards): แบบนี้จะมีสายรัดปรับได้ตามต้องการครับ ใครที่ชอบความมั่นคง กระชับ แล้วก็ต้องการการป้องกันแบบจัดเต็ม ผมแนะนำแบบนี้เลยครับ ไม่ต้องกลัวว่าจะหลุดหรือเลื่อนระหว่างเล่น

วิธีเลือกสนับแข้งที่เหมาะกับเรา

  • ขนาดและความกระชับ: ต้องเลือกให้พอดีกับขาของเรานะครับ ควรจะครอบคลุมตั้งแต่ข้อเท้ายันใต้เข่าเลย
  • วัสดุ: ผมแนะนำให้เลือกวัสดุที่แข็งแรง น้ำหนักเบา และทนทานครับ อย่างพวก ABS หรือคาร์บอนไฟเบอร์
  • มาตรฐานความปลอดภัย: อันนี้สำคัญครับ ต้องได้มาตรฐานสากลนะ เช่น FIFA Approved จะได้มั่นใจว่าคุณภาพดีจริง
  • ความสบาย: ลองใส่ดูก่อนซื้อทุกครั้งนะครับ ต้องกระชับแต่ไม่อึดอัด เคลื่อนไหวได้สบายๆ

2. รองเท้าฟุตบอล

2. รองเท้าฟุตบอล (Soccer Cleats)

รองเท้าฟุตบอลเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นให้ดียิ่งขึ้น มีบทบาทสำคัญในการป้องกันการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นกับเท้าและข้อเท้าของเราด้วย ผมขอแนะนำว่าการเลือกรองเท้าให้เหมาะสมกับประเภทของสนามที่เราเล่นเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกเลยนะครับ เพราะรองเท้าที่เหมาะสมจะช่วยให้เราเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วและมั่นคง ลดความเสี่ยงในการลื่นล้มหรือการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้น ไม่ว่าคุณจะเล่นในสนามหญ้าธรรมชาติที่มีความนุ่มและความชื้น สนามหญ้าเทียมที่มีพื้นผิวเฉพาะตัว หรือแม้แต่สนามในร่มที่มีพื้นผิวเรียบแข็งครับ

ประเภทของพื้นรองเท้า

  1. Firm Ground (FG): แบบนี้เหมาะกับสนามหญ้าจริงที่แห้งๆ แข็งๆ นะครับ ปุ่มทำจากพลาสติกหรือไนลอน ยึดเกาะดีมากครับ
  2. Soft Ground (SG): ถ้าเล่นสนามหญ้าที่นุ่มๆ หรือเปียกๆ ผมแนะนำแบบนี้ครับ ปุ่มเป็นโลหะหรือพลาสติกผสมโลหะ ช่วยให้ทรงตัวดีในสนามลื่นๆ
  3. Turf: สำหรับสนามหญ้าเทียมครับ มีปุ่มเล็กๆ เยอะๆ ช่วยกระจายน้ำหนักดี ลดแรงกระแทกได้ดีมากๆ
  4. Indoor: เล่นในร่มหรือพื้นเรียบๆ อย่างพื้นไม้หรือปูน ต้องใช้แบบนี้เลยครับ พื้นเรียบทำจากยาง กันลื่นได้ดี

การเลือกขนาดและวัสดุที่เหมาะสม

  • ขนาด: ผมแนะนำให้เลือกแบบที่กระชับพอดีเท้าเลยครับ ไม่หลวม ไม่คับ และควรเหลือที่ว่างหัวรองเท้าประมาณ 0.5 ซม. จะได้ขยับนิ้วได้สบายๆ
  • วัสดุ:
    1. หนังแท้: นุ่มสบายเท้าดีครับ เข้ารูปสวย แต่ต้องดูแลหน่อย
    2. หนังสังเคราะห์: น้ำหนักเบา ทนทาน ดูแลง่าย เหมาะกับคนชอบวิ่งเร็วๆ ครับ
    3. ผ้าตาข่าย (Mesh): ระบายอากาศดีมากครับ น้ำหนักเบา เหมาะกับการเล่นหน้าร้อนๆ

3. ถุงมือผู้รักษาประตู 

3. ถุงมือผู้รักษาประตู (Goalkeeper Gloves)

ถุงมือผู้รักษาประตูเป็นอุปกรณ์ช่วยป้องกันการบาดเจ็บที่มือและนิ้วในขณะรับลูกบอลที่มาด้วยความเร็วและแรงสูงแล้ว ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมและจับบอลให้แน่นขึ้นด้วยครับ ที่สำคัญคือถุงมือยังช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้ผู้รักษาประตูในการเผชิญหน้ากับนักเตะฝ่ายตรงข้าม โดยเฉพาะในจังหวะสำคัญๆ อย่างการรับลูกยิงหรือการออกมาตัดบอลครับ

คุณสมบัติของถุงมือที่ดี

  1. การกันกระแทก: ผมแนะนำให้เลือกแบบที่มีวัสดุบุด้านในหนาๆ และยืดหยุ่นนะครับ จะช่วยลดแรงกระแทกที่นิ้วและฝ่ามือได้ดีครับ
  2. การยึดเกาะ: ส่วนฝ่ามือควรเป็นวัสดุที่เหนียวๆ อย่างลาเท็กซ์ครับ จะได้จับบอลได้แน่น ไม่หลุดมือง่ายๆ ไม่ว่าฝนจะตกแดดจะออก
  3. ความกระชับ: ต้องรองรับนิ้วมือได้ดีครับ ไม่หลวมเกินไป แต่ก็ไม่รัดจนอึดอัด จะได้เล่นได้สบายๆ
  4. การระบายอากาศ: อันนี้สำคัญมากครับ ต้องระบายอากาศได้ดี ไม่อับชื้น จะได้ใส่สบายตลอดเกม

แนะนำวิธีเลือกถุงมือที่เหมาะกับการใช้งาน

  • เลือกขนาดที่พอดี: ผมแนะนำให้เลือกแบบที่พอดีมือครับ เหลือที่ว่างที่ปลายนิ้วสัก 1 ซม. จะได้ขยับได้คล่อง
  • เลือกประเภทที่เหมาะกับการใช้งาน:
    • Training Gloves: ถ้าซ้อมบ่อยๆ ผมแนะนำแบบนี้ครับ ทนทานดี ราคาไม่แพง
    • Match Gloves: แบบนี้เอาไว้ใช้แข่งครับ จับบอลดีเยี่ยม แต่ต้องดูแลให้ดีหน่อย
    • Weather-Specific Gloves: มีแบบเฉพาะสภาพอากาศด้วยนะครับ เช่น แบบกันน้ำสำหรับวันฝนตก
  • วัสดุพื้นผิวฝ่ามือ: ถ้าชอบแข่งจริงจัง ผมแนะนำลาเท็กซ์คุณภาพดีครับ แต่ถ้าแค่ซ้อมเล่นๆ เลือกวัสดุผสมราคาประหยัดก็พอครับ
  • การดูแลรักษา: อย่าลืมล้างทำความสะอาดหลังใช้ทุกครั้งนะครับ แล้วเก็บให้พ้นแดด จะได้ใช้ได้นานๆ

4. หมวกป้องกันศีรษะ 

4. หมวกป้องกันศีรษะ 

หมวกป้องกันศีรษะเป็นอุปกรณ์ที่ผมแนะนำเลยนะครับ เพราะช่วยลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บที่หัวได้ดี โดยเฉพาะตอนที่มีจังหวะปะทะหรือกระแทกครับ ไม่ว่าจะเป็นตอนชนกับคู่แข่ง หรือตอนรับลูกบอลแรงๆ แม้ว่าจะไม่ได้บังคับให้ใส่ในการเล่นทั่วไป แต่ถ้าใครเคยมีประวัติบาดเจ็บที่หัวมาก่อน หรืออยากเพิ่มความมั่นใจในสนาม ผมว่าควรมีติดตัวไว้นะครับ

การใช้งานและข้อควรพิจารณา

  • การใช้งาน: ตัวหมวกทำจากวัสดุนุ่มๆ ยืดหยุ่นได้ดีครับ ส่วนใหญ่ใช้โฟม EVA หรือวัสดุกันกระแทกที่น้ำหนักเบา ใส่สบาย ไม่อึดอัด ปกป้องได้ทั้งหน้าผาก ข้างหัว และท้ายทอยครับ
  • ข้อควรพิจารณา:
    1. ขนาดและความพอดี: ผมแนะนำให้เลือกขนาดที่พอดีกับหัวเลยครับ ไม่หลวมจนหลุด ไม่แน่นจนปวด ลองใส่ดูก่อนซื้อจะดีที่สุดครับ
    2. วัสดุ: เลือกแบบที่ทนๆ ยืดหยุ่นดี และระบายอากาศได้ดีครับ จะได้ไม่ร้อนหรืออับชื้นตอนใส่
    3. มาตรฐานความปลอดภัย: อันนี้สำคัญครับ ต้องได้มาตรฐานจาก FIFA หรือองค์กรกีฬาที่น่าเชื่อถือนะครับ
    4. ข้อจำกัด: ผมต้องบอกตามตรงว่า หมวกช่วยลดแรงกระแทกได้ แต่ถ้าชนกันแรงๆ ก็อาจจะไม่สามารถป้องกันได้ทั้งหมดนะครับ

5. สนับศอกและสนับเข่า

5. สนับศอกและสนับเข่า

สนับศอกและสนับเข่าเป็นอุปกรณ์ป้องกันที่ช่วยปกป้องจุดสำคัญของร่างกายและลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีแนวโน้มจะล้มบ่อยๆ หรือเคยมีประวัติการบาดเจ็บมาก่อน ตัวอุปกรณ์ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษให้สามารถซับแรงกระแทกได้อย่างดีเยี่ยม ช่วยป้องกันการฟกช้ำและการกระทบกระเทือนของข้อต่อ อีกทั้งยังช่วยลดความรุนแรงของการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุต่างๆ ในสนามได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ

วัสดุและการเลือกใช้งาน

  1. วัสดุที่ใช้ทำสนับศอกและสนับเข่า:
    • โฟม EVA: น้ำหนักเบา ยืดหยุ่นดี รับแรงกระแทกได้เยี่ยมครับ
    • เจลกันกระแทก: ถ้าต้องการป้องกันระดับสูง ผมแนะนำตัวนี้ครับ นุ่มสบาย ยืดหยุ่นดีมาก
    • ผ้าตาข่ายระบายอากาศ: ไม่ร้อน ไม่อับชื้น ใส่ได้นานๆ ครับ
  2. การเลือกใช้งาน:
    • ขนาดที่พอดี: ต้องกระชับนะครับ ไม่หลวมจนหลุด ไม่แน่นจนเลือดไหลเวียนไม่ดี
    • ประเภทการใช้งาน:
      • แบบ Slip-On: ใส่ง่าย ถอดง่าย สะดวกดีครับ
      • แบบ สายรัด: ปรับความกระชับได้ตามต้องการเลยครับ
    • การป้องกันระดับต่างๆ:
      • เล่นทั่วไป: เลือกแบบเบาๆ ป้องกันพื้นฐานก็พอครับ
      • เล่นสนามแข็ง: แนะนำให้เลือกแบบหนาๆ กันกระแทกดีๆ หน่อยครับ

6. เสื้อป้องกัน

6. เสื้อป้องกัน

เสื้อป้องกันเป็นอุปกรณ์เสริมที่ดีเยี่ยมมากลเยครับ นอกจากการเลือกชุดบอลที่มีคุณภาพแล้ว การใส่อุปกรณ์ชิ้นนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บบริเวณหน้าอกและหลังได้ดีมาก โดยเฉพาะตอนที่ต้องรับแรงกระแทก ไม่ว่าจะเป็นจังหวะปะทะกับคู่ต่อสู้ ตอนล้ม หรือรับลูกบอลแรงๆ ตัวเสื้อจะมีแผ่นโฟมหรือวัสดุรองรับแรงกระแทกติดอยู่ที่บริเวณหน้าอก ไหล่ และหลังครับ ช่วยกระจายน้ำหนักและลดแรงกระแทกได้ดีเลย

เหมาะสำหรับผู้รักษาประตูหรือผู้เล่นที่ต้องการป้องกันเพิ่มเติม

  1. ผู้รักษาประตู: ผมว่าเสื้อป้องกันช่วยได้เยอะเลยครับ โดยเฉพาะตอนรับลูกบอลแรงๆ หรือล้มกระแทกพื้น ช่วยให้ผู้รักษาประตูเล่นได้มั่นใจขึ้น ไม่ต้องกังวลเรื่องบาดเจ็บด้วยครับ
  2. ผู้เล่นที่ต้องการป้องกันเพิ่มเติม: สำหรับตำแหน่งที่ต้องปะทะบ่อยๆ อย่างกองหลัง หรือคนที่เคยมีอาการบาดเจ็บที่ลำตัวมาก่อน ผมแนะนำให้ใส่เสื้อป้องกันเลยครับ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้เยอะทีเดียว

คุณสมบัติของเสื้อป้องกันที่ดี

  • วัสดุ: ผมแนะนำให้เลือกเสื้อที่ทำจากผ้ายืดหยุ่นและระบายอากาศดีๆ นะครับ เช่น ผ้าตาข่ายหรือโพลีเอสเตอร์ จะได้ใส่สบายๆ ไม่ร้อนครับ
  • แผ่นป้องกัน: ส่วนนี้สำคัญมากครับ ต้องเลือกที่ทำจากโฟมหรือวัสดุรับแรงกระแทกได้ดี หนาพอเหมาะ และติดตั้งถูกจุด ทั้งหน้าอก ไหล่ และหลังเลยครับ
  • น้ำหนักเบา: อันนี้สำคัญไม่แพ้กันครับ เสื้อต้องเบา ไม่เป็นภาระตอนวิ่งหรือเคลื่อนไหว
  • ความกระชับ: ต้องพอดีตัวนะครับ ไม่หลวมเกินไปจนขยับลำบาก

วิธีเลือกและดูแลเสื้อป้องกัน

  • ลองใส่ดูก่อนซื้อครับ ต้องพอดีตัว ไม่รัดหรือหลวมจนเกินไป
  • ก่อนซื้อ ลองดูวัสดุและแผ่นป้องกันให้ดีครับว่าแข็งแรงทนทาน
  • หลังใช้ทุกครั้ง อย่าลืมซักทำความสะอาดนะครับ เหงื่อและสิ่งสกปรกจะได้ไม่สะสม
  • เก็บในที่แห้ง อากาศถ่ายเทดีๆ ครับ จะได้ไม่มีกลิ่นอับ

วิธีเลือกและดูแลอุปกรณ์ป้องกัน

วิธีเลือกและดูแลอุปกรณ์ป้องกัน

เลือกอุปกรณ์ยังไงให้เหมาะกับเรา

  1. ขนาดต้องพอดี: ผมแนะนำว่าต้องลองใส่ดูก่อนซื้อนะครับ สนับแข้งต้องปิดหน้าแข้งได้หมด ไม่หลุดง่าย ส่วนรองเท้าก็ต้องใส่สบาย ไม่คับหรือหลวมเกินไปครับ
  2. วัสดุดีมีคุณภาพ: เลือกของที่แข็งแรงทนทานครับ อย่างพวกพลาสติก ABS หรือโฟม EVA คุณภาพดี แนะนำให้ดูว่ามีมาตรฐาน FIFA รับรองด้วยนะครับ
  3. เหมาะกับตำแหน่งที่เล่น: ผู้รักษาประตูก็ต้องมีถุงมือที่จับบอลดีๆ ส่วนกองหลังที่ต้องปะทะเยอะก็ควรมีสนับแข้งแบบหนาๆ กับเสื้อกั๊กป้องกันด้วยครับ
  4. ดูสภาพสนามด้วย: รองเท้าสำคัญมากครับ ถ้าเล่นสนามหญ้าธรรมชาติก็ใช้ FG ส่วนหญ้าเทียมก็ต้องเป็น Turf ครับ

วิธีดูแลอุปกรณ์ให้ใช้ได้นานๆ

  1. ทำความสะอาดทุกครั้ง: หลังเล่นเสร็จ ผมจะซักสนับแข้ง ถุงมือ เสื้อกั๊กด้วยสบู่อ่อนๆ ส่วนรองเท้าก็เช็ดดินออกให้หมดครับ
  2. อย่าเก็บที่ชื้น: ผมแนะนำให้เก็บที่แห้งๆ อากาศถ่ายเทดีๆ จะได้ไม่ขึ้นราหรือมีกลิ่นเหม็นอับครับ
  3. หมั่นเช็คสภาพ: ถ้าเห็นว่าสนับแข้งแตก ถุงมือขาด ต้องเปลี่ยนใหม่เลยนะครับ รองเท้าก็ต้องดูว่าพื้นยังดีอยู่ไหม จะได้ไม่ลื่นครับ
  4. ใช้ให้ถูกประเภท: อย่าเอารองเท้าสนามหญ้าไปใช้กับพื้นปูนนะครับ มันจะพังเร็วมากครับ
  5. เก็บให้ดี: ผมใช้กระเป๋าเก็บอุปกรณ์แยกไว้เลยครับ แล้วก็ต้องตากถุงมือกับเสื้อกั๊กให้แห้งสนิทก่อนเก็บด้วยครับ

ผมเชื่อว่าการเล่นฟุตบอลจะสนุกและปลอดภัยมากขึ้น ถ้าเราใส่ใจเรื่อง อุปกรณ์ป้องกันฟุตบอล นะครับ ไม่ว่าจะเป็นสนับแข้ง รองเท้า หรือถุงมือโกล์ว พวกนี้ไม่ใช่แค่ช่วยให้เราเล่นได้ดีขึ้น แต่ยังช่วยป้องกันการบาดเจ็บด้วยครับ ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเป็นนักบอลอาชีพหรือเล่นเพื่อสนุก ผมขอแนะนำให้เลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะกับตัวเอง แล้วก็อย่าลืมดูแลรักษาให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอนะครับ จะได้สนุกกับการเตะบอลได้อย่างเต็มที่และปลอดภัยในทุกๆ เกมครับ


คำถามที่พบบ่อย

1. ทำไมต้องใส่อุปกรณ์ป้องกันตอนเล่นบอล?

เพราะช่วยกันไม่ให้เราเจ็บตัวตอนเล่น ไม่ว่าจะล้ม โดนชน หรือปะทะกัน โดยเฉพาะจุดเสี่ยงๆ อย่างหน้าแข้ง หัว หรือข้อเท้า แถมยังทำให้เราเล่นได้มั่นใจขึ้นด้วยครับ

2. จะเลือกสนับแข้งยังไงให้เหมาะกับตัวเอง?

สำคัญที่สุดคือต้องพอดีกับขาเราครับ น้ำหนักเบาๆ ใส่แล้วไม่หลุดตอนวิ่งหรือเข้าปะทะ และอย่าลืมเช็คว่าวัสดุแข็งแรง ทนทาน รับแรงกระแทกได้ดีด้วยนะครับ

3. ถุงมือผู้รักษาประตูสำคัญยังไงบ้าง?

ถุงมือช่วยป้องกันมือกับนิ้วไม่ให้บาดเจ็บตอนรับบอลหรือปะทะครับ แถมยังช่วยให้จับบอลได้แน่นขึ้น ลดแรงกระแทก ผู้รักษาประตูเลยรับบอลได้มั่นใจและปลอดภัยมากขึ้นครับ

4. จะซื้อรองเท้าบอลควรดูอะไรบ้าง?

สำคัญที่สุดคือต้องเลือกให้เข้ากับสนามที่เราจะไปเล่นครับ ถ้าเป็นสนามหญ้าธรรมชาติก็ใช้พื้น FG ถ้าสนามนุ่มๆ หรือเปียกก็ต้อง SG ส่วนหญ้าเทียมก็ต้องเป็น Turf ครับ และต้องใส่พอดีเท้า ระบายอากาศดีด้วยนะครับ จะได้ใส่สบาย